
สร้างบ้านในฝันของท่าน ไว้ใจ
บริการของเรา
- ออกแบบเขียนแบบแปลนสร้างบ้านด้วยระบบ 3D (3มิติทุกมุมมอง)
- บริการเขียนแบบและดำเนินการขออนุญาตปลูกสร้าง
- ประเมินราคาก่อสร้างบ้าน เพื่อการขอสินเชื่อ ทุกธนาคาร
- สร้างบ้านคุณภาพ ด้วยวัสดุคุณภาพ SCG โดยช่างที่มีประสบการณ์
- ปรับเปลี่ยนวัสดุประตูหน้า-ต่าง งานกระเบื้อง งานสุขภัณฑ์ได้ตามความต้องการ
- กำหนดราคาวัสดุชัดเจน ทุกหมวดหมู่ของงานก่อสร้าง ราคาไม่บานปลาย
- ระยะเวลาการก่อสร้างเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดขึ้นอยู่กับรูปแบบบ้าน
- เซ็นต์รับรองโครงสร้างของบ้าน โดยวิศวกร ที่มีประสบการณ์
- สร้างบ้านตามแบบมาตฐานของกรมโยธา
- รับประกันผลงานหลังการก่อสร้างและบริการเพิ่มเติม
- บริการอื่นๆ งานรื้อทุบอาคาร งานต่อเติมบ้าน งานซ่อมแซมอาคาร ฯลฯ
- ยินดีให้คำปรึกษา แก้ปัญหาที่เกี่ยวกับบ้าน
ทำไมจึงเลือกสร้างบ้านกับเรา
ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนเพราะเราเชื่อเสมอว่า "การสร้างบ้านในฝัน" เพื่อส่งมอบบ้านที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับลูกค้า เราภูมิใจที่ได้รับใช้ท่าน และขอขอบคุณ ที่ให้ความไว้วางใจ จึงทำให้เราต้องใส่ใจในทุกขั้นตอนของการสร้างบ้าน ออกแบบและเขียนแบบบ้าน ข้อตกลงในสัญญาที่เป็นธรรมไม่เอาเปรียบลูกค้า การบริหารโครงการ ให้อยู่ในงปประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้ รวมไปถึงขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ ที่ซื่อตรงเเละชัดเจน เราใส่ใจให้ความสำคัญการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพในทุกตารางเมตร จึงมั่นใจได้ว่าท่านได้บ้านในฝัน อย่างแน่นอน
แนะนำ7ขั้นตอน การวางแผนยื่นกู้ธนาคารสำหรับสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน
สำหรับท่านที่มีที่ดินอยู่แล้วต้องการก่อสร้างบ้านในฝันบนที่ดินของท่าน ถ้าท่านมีเงินสดเพียงพอสำหรับสร้างบ้านท่านเพียงจัดหาสถาปนิกออกแบบบ้านเลือกแบบบ้านฟรีหรือใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านให้ท่านแต่ถ้าท่านไม่มีเงินสดไม่เพียงพอและต้องยื่นกู้ธนาคารขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน ท่านควรวางแผนเตรียมตัวให้พร้อมก่อนยื่นกู้เพื่อให้ท่านได้รับการอนุมัติสินเชื่อตรงใจท่าน รวมถึงไม่มีอุปสรรคด้านสภาพคล่องระหว่างก่อสร้างท่านควรวางแผนดังต่อไปนี้
1.เตรียมตัวยื่นกู้สินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน การยื่นกู้สินเชื่อเพื่อสร้างบ้านท่านควรเตรียมตัวคล้ายกับการยื่นกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านใหม่ นอกจากนั้นควรมีเงินสำรองในธนาคารมีเงินเก็บพอสมควร
การยื่นกู้สินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านนั้น โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ ที่สำคัญที่ธนาคารจะพิจารณาที่ดินที่ไม่ติดภาระกับสถาบันทางการเงินเป็นอันดับแรก แต่ถ้าที่ดินของท่านติดภาระเช่นจำนองไว้กับสถาบันทางการเงินก่อนอยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะนำไปยื่นกู้ไม่ได้ เพียงแต่ธนาคารจะมีเกณฑ์การพิจารณาและขั้นตอนอีกต่อไป และถ้าโฉนดที่ดินมีมูลค่าสูงมากกว่าค่าก่อสร้างบ้านมากถือเป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นที่น่าสนใจของธนาคาร สำหรับท่านที่มีเงินสำรองไม่มากอย่าพึ่งหมดหวังในการกู้ เพราะธนาคารแต่ละแห่งจะมีเงื่อนไขปีกย่อยอีก ท่านสามารถพูดคุยเจอกับกับธนาคารในรายละเอียดได้

2.ตั้งงบประมาณการปลูกสร้างบ้าน ท่านย่อมทราบว่าบ้านของท่าน ควรจะมีกี่ห้องนอนกี่ห้องน้ำ จอดรถได้กี่คัน ขนาดของห้องถุงนั่งเล่นกล้องกว้างและอื่นๆ ท่านนำความต้องการนี้ไปหาข้อมูลเพื่อประมาณราคาก่อสร้างบ้าน ไม่ว่าจะปรึกษากับสถาปนิกเพื่อให้ออกแบบและประมาณราคาก่อสร้างบ้าน หาแบบบ้านฟรีที่ตรงความต้องการ ซึ่งจะมีประมาณการก่อสร้างมาด้วย หรือหาบริษัทรับสร้างบ้านที่มีแบบบ้านตรงใจท่าน พร้อมราคาที่เหมาะสม ซึ่งหลายๆบริษัทท่านสามารถขอปรับแบบบ้านได้บ้างหรือท่านอาจจะซื้อแบบบ้านสำเร็จรูปพร้อมรายการประมาณค่าก่อสร้างได้เช่นกัน
ในขั้นตอนนี้ปัญหาที่พบบ่อยคือประมาณราคาก่อสร้างถูกกว่าค่าก่อสร้างจริง เช่น แบบบ้านฟรีที่ท่านเลือกจะมีประมาณค่าก่อสร้างมาให้แต่เมื่อท่านให้ผู้รับเหมาก่อสร้างประมาณราคาก่อสร้างจริงกลับมีราคาที่สูงกว่ามาก ทั้งนี้เพราะประมาณค่าก่อสร้างที่แสดงในแบบบ้านฟรีอาจจะมีราคาเมื่อหลายปีก่อน สถานที่ก่อสร้างท่านอาจจะอยู่ในพื้นที่ที่มีราคาขนส่งสูงหรืออาจจะใช้วัสดุตกแต่งที่มีราคาสูงกว่าแบบฟรีทั่วไป เป็นต้น
3.เลือกธนาคารที่สนใจขอรับคำปรึกษาและพิจารณาวงเงินของท่านเบื้องต้น ธนาคารแต่ละแห่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ท่านควรศึกษาเงื่อนไขต่างๆด้วยตัวท่านเอง ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย
ค่าธรรมเนียมต่างๆ วงเงินที่จะได้รับสินเชื่อ มูลค่าทรัพย์สิน(ที่ดินและบ้านที่จะสร้าง) ที่ธนาคารจะประเมินให้ท่าน และสิ่งที่สำคัญอีกประการคือการจ่ายวงเงินสินเชื่อ โดยจะจ่ายเป็นงวดๆแต่ละงวดธนาคารจะจ่ายเมื่องานก่อสร้างในส่วนใดเสร็จบ้าง และจ่ายในจำนวนเท่าใดเรียกง่ายๆว่า เกณฑ์การแบ่งจ่ายงวดเงินกู้ ก็ได้ ท่านควรคัดเลือกธนาคารที่มีเงื่อนไขตรงกับใจของท่าน สัก3ธนาคารและนำเอกสารต่างๆ รวมถึงสำเนาโฉนดที่ดิน ร่างแบบบ้านและประมาณค่าก่อสร้าง เข้าปรึกษาธนาคารที่ท่านคาดหวังไว้เพื่อพิจารณาวงเงินของท่านเบื้องต้น พร้อมรวบรวมข้อมูลเงื่อนไขต่างๆของธนาคารเก็บกลับมาเป็นข้อมูลเพื่อตัดสินใจเลือกธนาคารที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด

4.เลือกบริษัทรับสร้างบ้าน/ผู้รับเหมา นอกจากแบบบ้านที่ตรงใจและราคาก่อสร้างที่ลงตัวแล้วท่าน ควรจะพิจารณาบริษัทรับสร้างบ้าน/ผู้รับเหมาที่จะทำสัญญา โดยมีเกณฑ์การแบ่งจ่ายงวดงานที่สอดคล้องกับธนาคารมากที่สุด เพื่อป้องกันสภาพคล่องระหว่างสร้างบ้าน เช่น ธนาคารบางแห่งมีเกณฑ์การแบ่งจ่ายงวดเงินกู้ งวดแรกเมื่อบ้านตอกเสาเข็มทำพื้นชั้นล่างเสร็จ แต่บริษัทรับสร้างบ้านผู้รับเหมาเก็บเงินมัดจำเมื่อทำสัญญาว่าจ้างสร้างบ้าน 5% และงวดที่1 เก็บเมื่อตอกเสาเข็มเสร็จ 10% รวมเป็น 15% ซึ่งท่านต้องสำรองเงินล่วงหน้า 15% ก่อนที่ธนาคารจะจ่ายเงินงวดแรกให้ท่านเป็นต้น เว้นแต่ท่านมีเงินสดสำรองมากพออาจจะไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องเกณฑ์การแบ่งจ่ายงวดเงินกู้ก็ได้ ธนาคารหลายแห่งมักจะขอสำเนาสัญญาว่าจ้างก่อสร้างด้วย ดังนั้นท่านต้องเลือกทำสัญญาว่าจ้างหรือเอกสารวางเงินมัดจำกับบริษัทรับสร้างบ้าน/ผู้รับเหมา ขั้นตอนนี้ถ้าเป็นไปได้ควรเจรจาให้วางเงินมัดจำในวันทำสัญญาหรือวางมัดจำให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่ท่านกู้ไม่ผ่าน เพราะท่านอาจจะไม่ได้รับเงินส่วนนี้คืนเนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้าน/ผู้รับเหมาจะมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำแบบก่อสร้างให้ท่าน เพื่อนำไปยื่นขออนุญาตปลูกสร้างก่อนที่จะนำไปยื่นธนาคาร

5.เลือกธนาคารที่ใช่กับท่าน เมื่อท่านได้จัดเตรียมเอกสารต่างๆเรียบร้อยแล้ว ควรนำไปยื่นกู้เพื่อสร้างบ้านประมาณ3ธนาคาร โดยคัดเลือกธนาคารที่มีเงื่อนไขสอดคล้องกับความต้องการของท่านมากที่สุด ตามที่กล่าวไว้ในข้อ3และข้อ4ข้างต้น ธนาคารหลายแห่งจะเก็บค่าธรรมเนียมในการประเมินหลักทรัพย์ของท่าน ธนาคารแต่ละแห่งจะพิจารณามูลค่าหลักทรัพย์ให้ท่านแตกต่างกันไปทั้งมูลค่าที่ดินและมูลค่าบ้านที่จะก่อสร้าง
6.ตรวจสอบงานในระหว่างก่อสร้างให้สอดคล้องกับเกณฑ์การแบ่งจ่ายงวดเงินกู้ เมื่อเริ่มงานก่อสร้างบ้าน จนกระทั่งจะเบิกงวดกับธนาคาร ท่านควรเข้าไปตรวจสอบความคืบหน้าของงานด้วยตนเองให้ถูกต้องสมบูรณ์ตามเกณฑ์การแบ่งจ่ายงวดเงินกู้ ธนาคารแต่ละแห่งจะมีระยะเวลาจ่ายงวดที่แตกต่างกัน เช่น เมื่อท่านแจ้งธนาคารว่าต้องการเบิกงวดเงินกู้ ดังนั้นระยะเวลาตั้งแต่แจ้งเบิกจนถึงวันที่ธนาคารโอนเงินให้ท่านอาจใช้เวลาถึง 15วัน เป็นต้น
ถ้างวดงานของบริษัทรับสร้างบ้านหรือผู้รับเหมาตรงกับธนาคารพอดี ท่านอาจจะต้องสำรองเงินส่วนหนึ่งเพื่อให้งานก่อสร้างดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หรือเจรจากับบริษัทรับสร้างบ้าน/ผู้รับเหมาเป็นกรณีได้เช่นกัน
7.เมื่อบ้านในฝันท่านเสร็จแล้วขอทะเบียนบ้าน ยินดีให้คำปรึกษาในการออกแบบ,สร้างบ้าน โทร/ไลน์หาเราได้ครับ และติดมิเตอร์น้ำ-ไฟให้เรียบร้อย ในงวดสุดท้ายของการเบิกเงินกับธนาคาร ท่านควรขอทะเบียนบ้านขอติดตั้งมิเตอร์น้ำ-ไฟให้เรียบร้อย เพื่อนำเอกสารไปยื่นธนาคารว่าบ้านท่านเสร็จสมบูรณ์จริง นอกจากวงเงินสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านแล้วท่านสามารถขอสินเชื่อเพื่อการตกแต่งได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้กู้แต่ละท่าน
ติดตามอัพเดตผลงานของเราได้ในเพจนะค่ะ